Wednesday, May 30, 2001

Kriengsak Chareonwongsak people should receive state assistance

Consideration 2: Determining who should be partially responsible for their own medical costs. At least four groups of people should receive state assistance.

Firstly, those with contagious diseases such as tuberculosis, dengue fever, malaria, cholera, leprosy, pertussis, smallpox, and anopheles, which form a public social hazard. Individuals suffering from these diseases may not have the motivation to take preventive measures, or even after initially contracting it, to deal with it quickly without passing it on to others. As a result, the state should provide free innoculations against these highly contagious but preventable diseases. Those with highly infectious diseases must have access to competent medical help thereby preventing the spread of such diseases. On the other hand however, those with less infectious diseases, such as venereal diseases, need to be handled differently. Such individuals would be responsible to take preventive measures and to pay for any medical costs they incur.

Secondly, the state must cover the costs of the disadvantaged and destitute, such as the disabled, children, poor, elderly and so on. Often these people are abandoned by their own families and become a burden to society. The state’s Public Assistance Scheme does help to defer medical costs for those on low incomes and others such as children and the aged; however, this plan is still not available to everyone who needs it. A 1999 report released by the Ministry of Public Health shows that only 5.5% of the elderly, 7.3% of children below the age of five, 11.1% of primary and secondary school children and 1.5 % of disabled have taken advantage of this program. As a result, distribution of the Public Assistance Card must be improved to enhance the effectiveness of the card in providing health care services for the most needy.

Thirdly, those with incomes below the poverty line, that is, lower than 10,932 baht per year should have their health costs covered. The 4.4 million people in this group should be given free medical aid through the existing state welfare systems, including the Public Assistance Card. Centralized information centers should be established to collect lists of people below the poverty line incomes, such as poor farmers or slum dwellers in urban areas. These lists would be given to the various social agencies and medical facilities so that users could choose the clinics and hospitals they prefer. 

Fourthly, those with incomes higher than the poverty line but lower than the survival line that is, those with incomes between 10,932 and 14,623 baht per year. This group would also struggle to pay medical costs when their incomes fall below the survival line and would be unlikely to have sufficiently high incomes to purchase private insurance plans. Thus, Thai citizens in this category should pay as much as they are able for their medical costs and the state should cover the balance. The government should allow this group into the 30 baht payment scheme whereas the rich cannot qualify for the 30 baht payment scheme thereby ensuring no abuse of the scheme occurs.

If we use the above criteria we can cover everyone under the various health care systems, whilst having equity at the same time. They would bring many benefits including reduced long-term monetary burdens, release from the need to raise taxes for the upper classes, a more even distribution of medical services for all the people in Thailand and, in the end, a more equitable health care system that can truly meet the needs of all Thais.

Professor Dr Kriengsak Chareonwongsak
Executive Director, Institute of Future Studies for Development (IFD)
kriengsak@kriengsak.com, http://www.ifd.or.th

Monday, May 28, 2001

แนะนำหนังสือใหม่

CAI Pneumatics = บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง นิวแมติกส์ [ interactive multimedia ] /
กรุงเทพฯ : ภาควิชาคอมพิวเตอร์ศึกษา คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ , 2546.
1 แผ่น : เสียง , สี ; 4 ? นิ้ว.


ประกอบด้วยบทเรียนทั้งหมด 6 บทเรียน คือ หลักการเบื้องต้นของระบบนิวแมติกส์ อุปกรณ์จ่ายลม อุปกรณ์ทำงาน อุปกรณ์ควบคุมการกำหนด โค้ดของอุปกรณ์ภายในวงจร และการแสดงขั้นตอนการทำงานของวงจร ลักษณะการดำเนินงานเนื้อหาเป็นแบบการนำเสนอภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว 3 มิติประกอบคำบรรยาย ในแต่ละบทเรียนจะประกอบด้วย วัตถุประสงค์ เนื้อหาและแบบทดสอบท้ายบทเรียนที่ช่วยให้ผู้เรียน ประเมินตนเองได้หลังจากจบบทเรียน


English Listening : Advanced = ฟังภาษาอังกฤษขั้นสูง [ electronic resource] / เชียงใหม่ : ยินดีดอทคอม, [2545].
1 แผ่น : เสียง,สี ; 4 ? นิ้ว


Listening : Advanced เหมาะสำหรับท่านที่เข้าใจภาษาอังกฤษในระดับปานกลางดีแล้ว และต้องการยกระดับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษจาก ระดับปานกลางขึ้นสู่ขั้นสูง พัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน เช่น การประชุม ร้านอาหาร เครื่องตอบรับอัตโนมัติ การประกาศ ข่าว โฆษณา สุนทรพจน์ การพูด เป็นต้น


พจนานุกรมศัพท์กฎหมายไทย (อังกฤษ-ไทย, ไทย-อังกฤษ) = Dictionary of Thai Law Words (English-Thai, Thai-English) [electronic resource ] / ศ.ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม.กรุงเทพฯ : ดีไอดีอินเตอร์เนชั่นแนล , [2546].
1 แผ่น : เสียง , สี ; 4 ? นิ้ว.


ค้นหาความหมายของคำศัพท์ได้รวดเร็ว, มีพจนานุกรมคำศัพท์ใช้บ่อยเพื่อช่วยค้นหาและจดจำได้ง่าย, มีพจนานุกรมส่วนบุคคลสำหรับเพิ่ม คำศัพท์ส่วนตัวได้, แสดงคำศัพท์พร้อมความหมายในขณะที่กำลังเล่นอินเตอร์เน็ต หรือกำลังใช้โปรแกรมอื่นๆ ได้เป็นพจนานุกรมที่รวบรวม นานาศัพท์วิทยาการที่เกี่ยวกับกฏหมายไทยทั่วไปในอดีตและปัจจุบัน จากประมาลกฏหมายพระราชบัญญัติพจนานุกรม และสุภาษิตกฏหมาย ไทยต่างๆ อีกทั้งศัพท์เกี่ยวกับกฏหมายรัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมืองและการปกครองที่เกี่ยวข้อง

สนทนาภาษาญี่ปุ่นในชีวิตประจำวัน [ interactive multimedia ] / กรุงเทพฯ : ซัคเซส มีเดีย , [2545].
1 แผ่น : เสียง,สี ; 4 ? นิ้ว


สื่อการเรียนการสอนภาษาญี่ปุ่นนำเสนอด้วยการ์ตูน 3 มิติแบ่งเป็น 3 Step คือ 1. การทักทายและการแนะนำตัว - การถามเบอร์ - โทรศัพท์ - การถามเวลา - วันและเดือน 2. การซื้อของ - การอธิบายลักษณะของสิ่งของต่าง ๆ - การชักชวน - การอธิบายเกี่ยวกับการเดินทาง 3. สอบถาม ตำแหน่งที่ตั้งและเส้นทาง - การโทรศัพท์และการรับโทรศัพท์ - สภาพอากาศ - ถามอาการไม่สบาย


มัณฑนา เกียรติพงษ์. รู้ภาษาไทยให้ลุ่มลึก เขียนถูก อ่านได้ ใช้เป็น. กรุงเทพฯ : The Knowledge Center, 2547.
หนังสือ รู้ภาษาไทยให้ลุ่มลึก นำเสนอเรื่องเกี่ยวกับการใช้ภาษาไทยให้ถูกวิธีโดยเริ่มตั้งแต่รู้จักอักษรไทย มาถึงการเขียนให้ถูก อ่านได้ ใช้เป็น และการอ่านคำที่มีอักษรนำ รวมถึงการสร้างคำใหม่ในภาษา อย่าง คำซ้ำ คำซ้อน คำประสม ภาษาดิ้นได้ ทำให้ผู้อ่านได้รับความรู้ใหม่ๆ เพิ่ม มากขึ้นจากการเรียนรู้ภาษาไทยและใช้ภาษาไทยเป็น หนังสือเล่มนี้จึงเหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษาและ ผู้สนใจทั่วไปที่รักการอ่านภาษาไทย
โลว์, เจเน็ต. ; เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์, แปล. วาทะของ เท็ด เทอร์เนอร์ : มุมมองของมาเวอริกผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก. พิมพ์ครั้งที่2. กรุงเทพฯ : ซัคเซสมีเดีย, 2544.

หนังสือ เรื่อง วาทะของ เท็ด เทอร์เนอร์ มุมมองของมาเวอริกผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก นำเสนอเรื่องเกี่ยวกับวาทะของคนแถวหน้า อาทิ วอร์เรน บัฟเฟทท์ , บิล เกตส์ , โอปรา วินฟรีย์ , แจ็ค เวลช์ , ซึ่งล้วนแต่เป็นบุคคลสำคัญในสังคมอเมริกัน ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ซึ่งหนังสือ เล่มนี้เป็นหนังสืออยู่ในชุด "Speak series" จากการอ่านทำให้ผู้อ่านได้มีโอกาสเรียนรู้ และศึกษาประสบการณ์ ปรัชญาการดำเนินชีวิต แบบอย่างชีวิตหลาย ๆ ด้านเป็นแนวทางสู่ความสำเร็จ เหมาะสำหรับนักศึกษา และผู้สนใจทั่วไป


พิศิษฐ์ ชวาลาธวัช และคณะ. วิ่งไปกับข่าวก้าวไปกับโลก. กรุงเทพฯ : อินฟอร์มีเดีย บุ๊คส์, 2546.
หนังสือวิ่งไปกับข่าวก้าวไปกับโลก นำเสนอเรื่องเกี่ยวกับข่าวที่ซ่อนเร้นเหตุการณ์ที่สังคมควรรับรู้พร้อมที่จะนำมาตีแผ่ ตักเตือนและประจานเชิง ประณามต่อโลก และสาธารณชนทำให้ผู้อ่านได้หลักในการอ่านข่าว การรายงานข่าวประเภทต่างๆ รวมถึงทราบหลักในสิทธิเสรีภาพ การนำเสนอข่าว และจริยธรรมของผู้สื่อข่าว ทำให้หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้อ่านที่เป็นนักข่าว นักศึกษา และผู้สนใจทั่วไป

จิตรา ก่อนันทเกียรติ. ขุมทรัพย์ความรู้ซ่อนอยู่ในคำจีน. กรุงเทพฯ : จิตรา, 2545.

หนังสือ ขุมทรัพย์ความรู้ซ่อนอยู่ในคำจีนนำเสนอเรื่องเกี่ยวกับสำนวนจีนซึ่งแปลเป็นไทย ความรู้จากคำคมจีนที่เป็นที่นิยม พร้อมกับการอธิบาย คำศัพท์จีนเหล่านั้นโดยแปลเป็นภาษาไทยทำให้ผู้อ่านได้คำศัพท์ใหม่ พร้อมกับนำคำนั้นมาใช้เป็นความรู้ในการเรียนรู้ภาษาจีนเพิ่มเติม ทำให้ผู้อ่านได้ความรู้จากชีวิตประจำวันของคนจีนมากขึ้น หนังสือเล่มนี้จึงเหมาะสำหรับ ผู้อ่านที่เรียนรู้เรื่องทั่วไปของจีนและนักศึกษาทั่วไป


เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์. ค้นคว้าค้นคิด : กรอบความคิดวาระการวิจัยแห่งชาติ. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ : ซัคเซส มีเดีย, 2543.

หนังสือ ค้นคว้าค้นคิด นำเสนอเรื่องเกี่ยวกับมุมมองใหม่ของแนวทางการพัฒนาประเทศ เสนอตัวแบบของการพัฒนาประเทศเชิงบูรณาการ ที่เหมาะสำหรับเมืองไทยในยุคปฏิรูป พร้อมหลักแนวความคิดแบบบูรณาการ 3 แนวคิดสำคัญ เช่น ปฏิรูปครบวงจร ปฏิรูปสามประสาน กระบวนทัศน์การสร้างชาติสู่อารยรัฐ สู่ "กรอบความคิดวาระการวิจัยแห่งชาติ" เพื่อ "ผลประโยชน์แห่งชาติ" หนังสือเล่มนี้จึงเหมาะ สำหรับนักเรียน นักศึกษา และผู้สนใจทั่วไป


วรศักดิ์ ทุมมานนท์. งบกระแสเงินสด งบการเงินรวม. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : ไอโอนิคอินเตอร์เทรด รีซอสเซส, 2542.
หนังสือ งบกระแสเงินสด งบการเงินรวม นำเสนอเรื่องการจัดทำงบกระแสเงินสด งบกระแสเงินรวม รวมถึงหลักการวิเคราะห์งบกระแส เงินสดซึ่งการพิมพ์ครั้งที่3 นี้ผู้เขียนได้เพิ่มเนื้อหาบางส่วนของหนังสืออย่างการวิเคราะห์งบกระแสเงิน สด โดยยกตัวอย่างพร้อมการสาธิต การใช้สูตรและการตีความหมายสูตรต่าง ๆ ที่คำนวณขึ้น หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้อ่านและนักศึกษาในสาขาการบัญชี และผู้สนใจทั่วไป

Sunday, May 20, 2001

Kriengsak Chareonwongsak motivate those with incomes

Consequently, the state would then be constrained to motivate those with incomes over the survival line to take out additional medical insurance. Furthermore, the government could aid employers (with more than one employee) to establish company health care coverage by legally allowing them to make monthly health-care and social security deductions from employees’ wages. Small and medium-size businesses could reduce the burden of administering such pooling systems by hiring outside agencies to administrate their health care and social security plans thereby sharing this fee. Moreover, the public social security system could be enlarged to include farmers with over-the-survival -line incomes. An intermediary agency could be charged with deducting a portion of the incomes of these farmers and can use them also to administer the disbursement of such funds by hiring outside agencies. By doing this, the government could provide for its entire people without having to provide equal medical coverage for everyone.
However, during the initial stages of such a plan, the state would need to continue to fund current social nets, as well as motivate people to take out private insurance or to join company insurance plans. Later though, when such a system was running smoothly, the state could cut down these social support systems as most people with above-the-survival-line incomes would have joined private or company social security programs. At that point, the government would only need to continue subsidizing the health care costs of those with incomes fell below the survival line. 


Professor Dr Kriengsak Chareonwongsak
Executive Director, Institute of Future Studies for Development (IFD)
kriengsak@kriengsak.com, http://www.ifd.or.th

Thursday, May 17, 2001

Kriengsak Chareonwongsak public social security funds

That is to say, if the country’s average income at the poverty line in 1998 was 10,932 baht per year, to this would be added the average per capita amount spent on public welfare, about 3,691.2 baht. The resultant survival line of 14,623.2 baht could be considered the basic income required for survival. Use of such an equation results in a fluctuation of the survival line as economic conditions and average health care costs rise and fall during each period.

Consideration 1: Determining who should be fully responsible for their own medical costs (referring to those with higher-than-survival-line incomes). If this system for determining survival line were used, it would be easy to determine who should be responsible for their own medical costs, that is, those with incomes of 14,623 baht or over. This group could choose the means by which they would cover their medical fees, either by cash, health insurance or by public social security funds. 


Professor Dr Kriengsak Chareonwongsak
Executive Director, Institute of Future Studies for Development (IFD)
kriengsak@kriengsak.com, http://www.ifd.or.th

Monday, May 7, 2001

Professor Dr. Kriengsak Chareonwongsak social nets are based on the principles of egalitarianism

On the other hand, the full welfare state, as found in many European countries whose social nets are based on the principles of egalitarianism, has caused exceedingly high tax rates, which consequently weaken the overall economic efficiency of these countries. Heavy taxes on capital gains in these states tends to undermine the efforts of entrepreneurs and others who work hard. At the same time, the unemployed are indolent about finding new jobs as their needs are generously supplied by the state. In the same way, full libertarianism can lead to the neglect of some groups such as the disabled, the disadvantaged or the destitute, who cannot easily access the health care system.
Consequently, a blend of these two approaches is considered the best approach even though choosing the correct blend of the various characteristics of each ideology is an art requiring careful consideration and skilled application.
It is argued here that across-the-board 30-baht-per-visit type of equality will result in long-term fiscal burdens and even greater inequity in Thailand’s health care system. It will only exacerbate the differences between social classes and between those with differing degrees of illness.
It is necessary to take a closer look at how this new health care system would work in terms of affecting taxes and enhancing equity. This is divided into two segments: firstly, a consideration of who should pay their own medical costs, and secondly, a consideration of who should be partially responsible for medical fees.
For the purposes of this article a distinction is made between the terms ‘poverty line’ (the income level that is just enough to avoid inadequate subsistence living) and, ‘survival line’ (the income level which is the poverty line plus the average annual per capita medical fees, with adjustments for inflation). 


Professor Dr Kriengsak Chareonwongsak
Executive Director, Institute of Future Studies for Development (IFD)
kriengsak@kriengsak.com, http://www.ifd.or.th